Unicity Nature's Tea Infusion
ดีทอกซ์สารพิษในร่างกาย ช่วยให้ลำไส้สะอาด พร้อมดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์
Nature's T คือชาสมุนไพร Mashmallow ล้างพิษในลำไส้โดยไม่ต้องสวนทวาร
รสหวานกลมกล่อมช่วยคลายเมือกและสิ่งตกค้าง ช่วยในการระบายและย่อยอาหาร
ลดคลอเลสโตรอล ลดเซลลูไลท์ แก้อาการท้องผูก
ลดการสะสมของกรดยูริคปัญหาการเกิดนิ่ว โรคเก๊าท์และอาการภูมิแพ้
อีกทั้งยังช่วยขจัดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ด้วย
ชาสมุนไพรล้างสารพิษในผนังลำไส้ ธรรมชาติบำบัดจากสมุนไพร 9 ชนิด ปลอดสารพิษ
ช่วยเสริมโปรแกรมการทำ Detoxification ชงดื่มง่าย รสชาติดี แค่ดื่มก่อนนอน ไม่ต้องสวนทวาร
เสริมการเคลื่อนตัวของลำไส้ ขับเมือกสารพิษตกค้างในระบบย่อยอาหาร
ช่วยระบาย ทำให้ลำไส้บีบรัดและคลายตัวเคลื่อนสู่ลำไส้ใหญ่
ช่วยสมานแผล ฝี หนองในลำไส้ ลดการอักเสบ ลดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร เสริมระบบย่อยอาหารให้สมบูรณ์
ลดการสะสมของกรดยูริค ปัญหาเรื่องนิ่ว โรคเก๊าท์ อาการภูมิแพ้
ลดเซลลูไลท์ เสริมโปรแกรมควบคุมน้ำหนัก
ส่วนประกอบ
- Marshmallow
- Peppermint
- Honey Suckle
- Bearberry
- Chamomile
- Rosehip
- Orange Peel
- Senna leaf
- Bucthorn Fogbark
วิธีรับประทาน
- แช่ชา 1 ถุงในน้ำร้อน 250 มิลลิลิตร นาน 2-5 นาที แล้วดื่มก่อนนอนหรือหลังอาหารเย็น
ควรดื่มติดต่อกัน 14 วัน หลังจากนั้น ควรดื่มสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- คืนแรกที่ดื่มชา Natures Tea วันรุ่งขึ้นจะมีการขับถ่ายของเสียออกมามากน้อยต่างกันในแต่ละคน
ซึ่งอาการถ่ายมากอาจมีติดต่อกัน 2 - 3 วัน หรือนานกว่านั้นแล้ว แต่คน แต่หลังจากดื่มไปสักพักจะถ่ายเป็นปกติ
- ในวันแรกๆ ที่ดื่มอาจมีอาการปวดมวนท้อง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
เพราะสมุนไพรในชากำลังทำหน้าที่คลายเมือกของเสียที่เกาะอยู่กับผนังลำไส้ออกมา
(อาการมวนท้องอาจมีติดต่อกัน 2-3 วันหรือนานกว่านั้นแล้ว แต่คน)
- ไม่แนะนำในผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะหรือลำไส้ขั้นรุนแรง แต่หากมีแผลในกระเพาะ
แนะนำให้ดื่มคลอโรฟิลล์เป็นประจำ เพราะคลอโรฟิลล์มีฤทธิ์ในการสมานแผล
- ชา Natures Tea และคลอโรฟิลล์ สามารถเริ่มรับประทานได้พร้อมกัน
ซึ่งเมื่อผ่านการดีท็อกซ์ด้วยชาแล้ว จะยิ่งเห็นผลดีของคลอโรฟิลล์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
คำแนะนำ
- สำหรับผู้ที่ถ่ายง่าย ควรแช่ชานานประมาณ 1-2 นาที
- สำหรับผู้ที่ถ่ายยากหรือท้องผูกเป็นประจำ ควรแช่ชานานประมาณ 5-8 นาที
- ผู้รับประทานมังสวิรัต ดื่มติดต่อกัน 3 วัน หลังจากนั้น ควรดื่มสัปดาห์ละครั้ง
- ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือสตรีที่อยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ไม่ควรใช้กับผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้ขั้นรุนแรง
- สำหรับผู้ที่มียารับประทานก่อนนอนไม่ควรดื่ม
